โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ในเด็ก (Allergic rhinitis)

เป็นโรคภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยมากในวัยเด็ก ซึ่งมักเริ่มมีอาการในวัยเข้าอนุบาล การดูแลรักษาโรคนี้อย่างถูกต้องและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสําคัญ เพื่อให้เด็กมีคุณภาพการนอนที่ดี ไม่กรน และลดโอกาสการเป็นหวัดเรื้อรังหรือไซนัสอักเสบตามมาได้

สังเกตได้จากมี อาการตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปของอาการดังต่อไปนี้ คันจมูก, จาม, นํ้ามูกไหล, และคัดจมูก โดยมีอาการมากกว่า 4 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือน โดยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ

1. โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล (Seasonal alleric rhinitis)

ซึ่งมีอาการเกิดขึ้นในช่วงใด ช่วงหนึ่งของปี โดยเฉพาะ หรือเป็นเพียงบางฤดูกาล สารก่อภูมิแพ้มักเป็นพวกละอองเกสร ของหญ้า ต้นไม้ หรือสปอร์ของเชื้อรา 

2. โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ซึ่งมีอาการได้ตลอดปี (Perennial allergic rhinitis)

สารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการมักเป็นสิ่งที่อยู่ในบ้าน เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ แมลงต่างๆ ในบ้าน ฯลฯ

การวินิจฉัยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

  1. การซักประวัติและการตรวจร่างกาย
  2. การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง Skin Prick Test หรือ การตรวจเลือด lgE ที่จำเพาะ (Specific lgE, slgE)
  • การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (skin test)เป็นวิธีที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าจําเป็นและค่อนข้างแม่นยํา โดยสารก่อภูมิแพ้ที่ใช้ทดสอบ จะเป็นสารที่พบบ่อยในสิ่งแวดล้อม เช่น สารสะกัดจากไรฝุ่นบ้าน,ละอองหญ้า, วัชพืช และต้นไม้ชนิดที่พบในบริเวณนั้น,แมลงต่างๆ ภายในบ้าน เช่น แมลงสาบ,เชื้อราที่พบบ่อยในท้องถิ่นนั้นๆ, ขนและรังแคของสัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น แมว, สุนัข ฯลฯ, อาหารที่พบมีผู้แพ้บ่อยบางชนิด เช่น นมวัว, ไข่, ถั่ว, อาหารทะเล เป็นต้น
    • แนะนำให้ทำการทดสอบในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี เพราะอาจจะให้ผลไม่แน่นอน เพื่อความแม่นยำในการแปลผล 
    • ต้องหยุดยาแก้แพ้ชนิดรับประทานมาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนมาทำการทดสอบ
    • ใช้เวลาทำการทดสอบ 15-20 นาที ก็สามารถทราบผลการทดสอบได้
  • การตรวจเลือด lgE ที่จำเพาะ (Specific IgE) มีความแม่นยำสูงสำหรับการหาสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้อากาศเช่นกัน เหมาะสำหรับ คนที่ไม่สามารถหยุดยาแก้แพ้ก่อนมาทำการทดสอบได้ หรือมีข้อจำกัดในการทำ skin prick test แต่ค่าใช้จ่ายในการตรวจจะสูงกว่า และต้องรอผลการตรวจนานประมาณ 1 สัปดาห์
  1. การตรวจ x-ray ที่ควรทําในเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ที่มีอาการน้ำมูกเรื้อรัง เป็นหวัดบ่อย มีอาการนอนกรนทุกวัน หรือมีภาวะหยุดหายใจกลางคืน ควรตรวจดูไซนัส และขนาดของต่อม adenoid เพื่อประเมินขนาด ของทางเดินอากาศในทางเดินระบบหายใจส่วนบนร่วมด้วย

การรักษาเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

  1. การดูแลสุขภาพทั่วไป 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ 
  • ออกกําลังกายสมํ่าเสมอ 
  • รับประทานอาหารให้ครบหมู่  

2. กําจัดและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุ

3. การรักษาโดยการใช้ยา อันได้แก่ ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน, ยาพ่นจมูกตามคำแนะนำของแพทย์

4.ผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ , หูชั้นกลางอักเสบ, หอบหืด, ต่อม adenoid โต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร่วมให้การรักษา หรือทําผ่าตัด 

5. การให้การรักษาโดยการฉีดวัคซีน (allergen immunotherapy) ควรต้องให้การรักษาโดย ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 

ข้อบ่งชี้ในการให้การรักษาโดยวิธีนี้

  1. หลีกเลี่ยงสารที่แพ้ไม่ได้
  2. 2. มีอาการรุนแรงและใช้ยาดังที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดแล้วไม่ได้ผลหรือไม่สามารถหยุดยาได้

พญ.สุวาณี เจริญลาภ 

กุมารแพทย์ด้านโรคภูมิแพ้และอิมมูนวิทยาในเด็ก